Motorola มุ่งพัฒนา Phonebloks มือถือประกอบเองได้

 

                           

หลายคนคงเคยได้เห็น "Phonebloks" มือถือที่สามารถประกอบชิ้นส่วนเองได้ ซึ่งคุณสามารถนำชิ้นส่วนต่างๆมาประกอบได้เองตามที่คุณต้องการ เช่น ต้องการความจำเครื่องเท่าไหร่ ความเร็วเครื่องขนาดไหน หรือ ความละเอียดกล้องเท่าไหร่ ก็สามารถไปหาซื้อมาประกอบเองได้เลย

และล่าสุดทาง Motorola เองเกิดสนใจ จึงคิดรับไอเดียนี้ไปพัฒนาต่อ โดยใช้ชื่อโปรเจกต์ว่า "Ara " ที่จะทำให้คุณเลือกประกอบสมาร์ทโฟนของคุณเองได้ โดยจะมีตัวหน้าจอซึ่งเป็นแผงวงจรหลักของเครื่อง และชิ้นส่วนอื่นๆ เช่น หน่วยความจำ กล้อง แบตเตอรี่ แรม และตัวรับสัญญาณอย่าง Wifi และ Bluetooth เป็นต้น คุณยังสามารถเลือกปรับเปลี่ยนตำแหน่งหรือความสามารถต่างๆของชิ้นส่วนเหล่านี้ได้ตามใจชอบอีกด้วย

ซึ่ง Project Ara นี้ก็ยังเป็น Concept หลักๆ ในการพัฒนาสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ ของทางค่าย Motorola อีกด้วย ไม่แน่อีกไม่นานเราคงมีมือถือแนวๆ แบบนี้มาให้ใช้กันก็ดูน่าสนใจไม่เบาเลยทีเดียว ว่ามั้ย 

 อาหารเสริมนำเข้าจากสหรัฐอเมริกา

เครื่องใช้ไฟฟ้าจากจีน แอบซ่อนชิพ Wi-Fi ปล่อยมัลแวร์ เอาไว้ภายใน ซึ่งจะดักจับข้อมูลผู้ใช้และรหัสผ่านต่างๆ

 

                           

ลองหันไปสังเกตเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านของคุณดูนะครับ ว่าผลิตในจีน Made in China หรือเปล่า? ถ้าใช่ ไม่แน่ว่าในนั้นอาจจะมีชิพอันตรายซ่อนอยู่ข้างในก็ได้

ไม่ว่าจะเป็นในเตารีด, กล้องถ่ายรูป, เครื่องชงกาแฟ หรือแม้แต่โทรศัพท์มือถือ โดยชิพดังกล่าวจะปล่อยคลื่น Wi-Fi ออกมา หากเราทำการเชื่อมต่อเมื่อไหร่ จะมีการส่งมัลแวร์เข้ามาแอบแฝงในอุปกรณ์ของเราทันที ซึ่งจะดักจับข้อมูลผู้ใช้และรหัสผ่านต่างๆ

การค้นพบดังกล่าวพบครั้งแรกมีขึ้นที่รัสเซีย ซึ่งมีความสัมพันธ์กับจีน ยังไม่มีรายงานเพิ่มเติมว่ามีพบที่ไหนอีกบ้าง

สำหรับแนวทางการป้องกัน แนะนำว่าให้เราเลือกเชื่อมต่อ Wi-Fi ที่ไว้ใจได้ และหลีกเลี่ยงการทำธุรกรรมผ่าน Hotspot ที่ไม่น่าไว้วางใจครับ

Was the iron in the last hotel room you stayed in made in China? Bad news: it may have been hiding an insidious little chip designed to infect your computer with spam-serving malware.

It’s not just irons that are being used as tiny trojan horses, either. Dashboard cameras, cell phones, and tea kettles have also been found inconspicuously outfitted with the malicious chips. They’re reportedly capable of latching on to any computer within 200 meters that’s attached to an unsecured WiFi network… like the ones in many hotels and coffee shops.

Shipments of modified small appliances are apparently popping up in Russia, but that could just be the tip of the iceberg. It’s entirely possible that the Russian gadgets were the first to be spotted and that similar malware gear has already been shipped to other corners of the globe.

It’s bad enough that you can’t trust that unfamiliar USB chargeryou were just about to plug your smartphone in to, but now you can’t even trust the iron you were going to use to press your slacks.

So what are these sneaky Chinese appliances up to? Right now, it looks like they’re only looking for unsuspecting drones to add to someone’s spam-serving army. Once a machine has been compromised, though, it’s possible that those in control would push additional malware to a victim’s machine.

They may even start sniffing WiFi traffic for usernames, passwords, and payment data being passed around in the open. Until security researchers learn more, you may want to unplug the iron in your next hotel room right after you inspect the mattress for bed bugs.

 อาหารเสริมนำเข้าจากสหรัฐอเมริกา

ผู้ใช้โวย MacBook Pro 13 นิ้ว รุ่นใหม่ที่ Apple เพิ่งวางจำหน่ายมีปัญหาคีย์บอร์ดและทัชแพดค้างไม่ทำงาน

 

                           

ถ้าคุณเป็นหนึ่งในคนที่เพิ่งจะรีบซื้อ MacBook Pro 13 นิ้ว รุ่นใหม่ที่เพิ่งวางจำหน่ายมา มีโอกาสที่คุณจะพบกับปัญหาคีย์บอร์ดและแทรคแพดค้างไม่ทำงาน ทำให้ MacBook Pro ของคุณทำงานไม่ได้ชั่วคราว

Apple ได้ออกมายอมรับว่ามีปัยหาดังกล่าวจริง และกำลังหาทางแก้ไขอยู่ โชคดีที่ว่าปัญหาดังกล่าวมาจาก OS Mavericks ไม่ได้เป็นที่ฮาร์ดแวร์ โดย Apple จะออกอัพเดตแก้ไขปัญหาดังกล่าวเร็วๆ นี้  นับว่า Apple ยังไม่เดือด้อนมาก เพระาะ iFixit ได้ทำการแกะเครื่อง MacBook Pro แล้วพบว่ามันซ่อมยากมาก

สำหรับทางแก้ปัญหาชั่วคราว ระหว่างรอ Apple ออกอัพเดต ทาง Apple ได้แนะนำว่าหากคีย์บอร์ดและทัชแพดไม่ทำงาน ให้ทำการปิดหน้าจอประมาณ 60 วินาที และเปิดขึ้นมาใหม่ คีย์บอร์ดและทัชแพดก็จะกลับมาทำงานปกติเช่นเดิม

ในเวบบอร์ดของ Apple ได้มีรายงานจากผู้ใช้ว่าส่วนมากจะค้างวันละ 2 ครั้ง และเค้าเลือกที่จะแก้โดยการต่อคีย์บอร์ดกับเมาส์แทน 

 อาหารเสริมนำเข้าจากสหรัฐอเมริกา

เดิมพันครั้งสำคัญโนเกีย

 

                           

การซื้อกิจการโนเกียในส่วนของโทรศัพท์มือถือของไมโครซอฟท์มูลค่ากว่า 7.2 พันล้านเหรียญที่ถึงแม้จะเห็นความชัดเจนในต้นปีหน้า แต่ไม่ได้หมายความว่าจะทำให้แผนธุรกิจของโนเกียสะดุดลงแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามโนเกียกำลังพิสูจน์ให้โลกรู้และเฝ้ามองการกลับมายิ่งใหญ่ในตลาดอีกครั้ง 
       
       ในงาน Nokia World ที่จัดขึ้นที่เมือง อาบู ดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สัปดาห์ที่ผ่านมา โนเกียยกทัพผลิตภัณฑ์ใหม่โชว์ตัว เจาะเกือบครบทุกเซ็กเมนต์ในตลาดไม่ว่าจะเป็น Nokia Lumia 2520 แท็บเล็ตเครื่องแรกของโนเกียบนระบบปฎิบัติการWindows RT สมาร์ทโฟนเรือธงมุ่งกลุ่มไฮเอนด์ หน้าจอ 6 นิ้ว ตระกูลLumia อย่างLumia 1520 และ 1320 รวมทั้งมือถือจับกลุ่มตลาดกลาง-ล่างตระกูลAsha อย่างAsha 500 ,502 และ503ไฮไลท์สำคัญที่สาวกและคู่แข่งเฝ้ามองคือการเปิดตัวแท็บเล็ตเครื่องแรกของโนเกีย
       
       ***ดูกันชัดๆสเป็ก Lumia 2520
       
       Lumia 2520 แท็บเล็ตระบบปฏิบัติการ Windows RTหน้าจอ HD 10.1 นิ้ว อ่านได้ชัดไม่ว่ากลางแจ้งหรือในร่ม รองรับ4G LTE และ Wi-Fi กล้อง 6.7 ล้านพิกเซล จุดเด่นอยู่ที่ใช้เลนส์ Zeiss บนแท็บเล็ตเป็นครั้งแรก เพื่อให้ถ่ายภาพสวยได้ แม้ในสภาวะแสงน้อย ชาร์จแบตได้เร็วถึง 80% ในเวลา 1 ชั่วโมง
       
       Lumia 2520 มากับ Nokia Storyteller แอปพลิเคชันที่โนเกียพัฒนาขึ้นเพื่อรวบรวมภาพถ่ายและวิดีโอตามลำดับเวลาผนวกกับแผนที่ ทำให้ผู้ใช้บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ อีกครั้งได้อย่างชัดเจน และด้วยบริการแผนที่ HERE ทำให้ Lumia 2520 เป็นแท็บเล็ตเพียงเครื่องเดียวที่มอบประสบการณ์แผนที่นำทางออฟไลน์ที่รวดเร็วและวางใจได้ 
       
       Lumia 2520ยังเสริมด้วยPower Keyboard แป้นพิมพ์พร้อม trackpad ให้ความรู้สึกในการใช้งานแบบเดียวกับแล็บท็อป พร้อมแบตเตอรี่สำรองให้ใช้งานได้นานขึ้นถึง 5 ชั่วโมง และยังมี Microsoft Office และ Outlook ติดตั้งมาในเครื่อง มี 4 สีให้เลือก คือ แดงและขาวในพื้นผิวแบบมัน ฟ้าและดำในพื้นผิวแบบด้าน คาดว่าจะวางจำหน่ายในไตรมาส 4 ปี 2013 ในราคา 499 เหรียญสหรัฐ เริ่มวางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา อังกฤษ และฟินแลนด์
       
       *** Qualcomm มั่นใจ Nokia Lumia 2520 เหนือกว่า Surface 2
       
       ควอลคอมม์ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของโลกออกมายืนยันว่า แท็บเล็ตรุ่นล่าสุดของไมโครซอฟท์ อย่างเซอร์เฟซทู (Surface 2) ไม่สามารถนำไปเทียบกับแท็บเล็ตของโนเกีย 'Lumia 2520' ได้เนื่องจาก Lumia 2520 มีขนาดใหญ่กว่า ทำงานได้เร็วกว่า และใช้พลังงานน้อยกว่า งานนี้ควอลคอมม์ฟันธงแท็บเล็ตวินโดวส์ในอนาคตกำลังถึงจุดเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้แท็บเล็ตระบบปฏิบัติการวินโดวส์รุ่นเล็กอย่าง Windows RT ครองแชมป์อันดับ 3 ในตลาดแท็บเล็ตอย่างภาคภูมิ
       
       ราช ทาลลูริ (Raj Talluri) และสตีเฟน ฮอร์ตัน (Stephen Horton) ผู้บริหารฝ่ายจัดการผลิตภัณฑ์ของควอลคอมม์ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเน็ต ว่าบริษัทกำลังเทเงินทุนพัฒนาชิปเซ็ตสำหรับติดตั้งในอุปกรณ์แพลตฟอร์ม Windows RT แม้ว่าผู้ผลิตคอมพิวเตอร์พีซีและผู้บริโภคจะมีแนวโน้มนิยมแท็บเล็ตระบบปฏิบัติการ Windows Pro มากกว่า เนื่องจากควอลคอมม์มีความเชื่อว่าในระยะยาว Windows RT จะมีพัฒนาการที่ดีกว่าปัจจุบัน
       
       Windows RT นั้นเป็นระบบปฏิบัติการรุ่นเล็กที่ไมโครซอฟท์พัฒนามาเพื่อใช้งานบนอุปกรณ์ชิปสถาปัตยกรรม ARM ที่สามารถประหยัดพลังงานสูง ต่างจาก Windows Pro ที่ไมโครซอฟท์พัฒนามาให้ใช้กับอุปกรณ์ชิปสถาปัตยกรรม X86 เหมือนคอมพิวเตอร์พีซี แม้ทั้ง 2 ระบบปฏิบัติการวินโดวส์จะมีหน้าตาและความสามารถคล้ายกัน แต่ความแตกต่างที่ชัดเจนคืออุปกรณ์ Windows RT จะสามารถติดตั้งเพียงแอปพลิเคชันที่สร้างสำหรับแท็บเล็ตและสมาร์ทโฟนทั่วไปเท่านั้น ต่างจาก Windows Pro ที่สามารถติดตั้งซอฟต์แวร์วินโดวส์เหมือนคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก
       
       ข้อจำกัดนี้ทำให้การสำรวจล่าสุดพบว่าผู้บริโภคจำนวนมากไม่ต้องการใช้งานแท็บเล็ตที่ไมโครซอฟท์พัฒนาเองอย่างSurface ที่นำ Windows RT มาทำงานบนชิปของค่ายเอ็นวิเดีย (Nvidia)
       
       การประกาศความเชื่อมั่นต่อ Windows RT ของผู้ผลิตชิปอีกรายอย่างควอลคอมม์ในครั้งนี้จึงได้รับความสนใจอย่างมาก เนื่องจากสิ่งที่เกิดขึ้นสวนทางกับทิศทางตลาด Windows RT ซึ่งกำลังซบเซา โดยเฉพาะเมื่อ Lumia 2520 เป็นผลงานการนำ Windows RT มาทำงานบนชิปของควอลคอมม์ ยิ่งทำให้ควอลคอมม์กล้าการันตีว่าอุปกรณ์ระบบปฏิบัติการ Windows RT ในอนาคต จะไม่เหมือนกับอุปกรณ์ Windows RT ในวันนี้แน่นอน
       
       ผู้บริหารควอลคอมม์ยืนยันว่า Lumia 2520 นั้นมีประสิทธิภาพระดับสุดยอด ซึ่งไม่สามารถเทียบได้กับแท็บเล็ตรุ่นล่าสุดของไมโครซอฟท์อย่าง Surface 2 ในทุกด้าน เนื่องจาก Lumia 2520 มีหน้าจอใหญ่กว่า ทำงานได้เร็วกว่า และประหยัดพลังงานมากกว่า
       
       คำพูดของผู้บริหารควอลคอมม์นั้นมีน้ำหนัก เนื่องจากหากมองในมุมคุณสมบัติเครื่อง Surface 2 ใช้ชิป 1.7GHz Nvidia Tegra 4 ขณะที่ Nokia 2520 ใช้ชิป 2.2GHz Qualcomm Snapdragon 800 ทำให้ Nokia 2520 เหมาะสมต่อการเล่นเกมมากกว่า Surface 2 โดยทั้ง Nokia 2520 และ Surface 2 คือแท็บเล็ตเพียง 2 รุ่นในตลาดโลกที่เป็น Windows RT
       
       ทั้งหมดนี้สะท้อนว่า ผู้บริหารควอลคอมม์เชื่อว่า Lumia 2520 จะเป็นสินค้าชูโรงที่ทำให้ผู้บริโภคหันมามอง Windows RT มากขึ้น จนทำให้ Windows RT กลายเป็นระบบปฏิบัติการที่สามารถนั่งเก้าอี้อันดับ 3 ในตลาดแท็บเล็ตโลกอย่างเต็มภาคภูมิ (รองจากอันดับ 1 คือแอนดรอยด์ และอันดับ 2 คือไอโอเอส) โดยปัจจุบัน ควอลคอมม์เป็นผู้ผลิตชิปตระกูล Snapdragon ซึ่งถูกนำไปติดตั้งในแท็บเล็ตมากกว่า 40 รุ่นในขณะนี้
       
       ***โนเกียยิ้ม Lumia ทำยอดขายทุบสถิติไตรมาสล่าสุด 
       
       ก่อนหน้างาน Nokia World ไม่กี่วันโนเกียโชว์ผลงานยอดจำหน่ายLumia เพิ่มขึ้นติดต่อกัน 4 ไตรมาส โดยพบว่าโนเกียสามารถจำหน่ายLumia มากกว่า 8 ล้านเครื่องระหว่างเดือนกรกฎาคม-กันยายนที่ผ่านมา ถือเป็นสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 2.9 ล้านเครื่องที่เคยทำได้ในปี 2012 ถึงเกือบ 3 เท่าตัว
       
       หากเทียบกับไตรมาส 2 ของปีนี้ ยอดจำหน่ายLumiaในไตรมาสล่าสุดยังสูงกว่าไตรมาสก่อนหน้า (เมษายน-มิถุนายน 2013) ที่เคยทำได้ 7.4 ล้านเครื่อง อย่างไรก็ตาม ตัวเลขเหล่านี้ถือว่ายังน้อยมากเมื่อเทียบกับยอดจำหน่ายที่ค่ายใหญ่อย่างซัมซุง หรือแอปเปิล ทำได้ แต่อย่างน้อยภาวะยอดขายที่เติบโตต่อเนื่องก็สามารถพิสูจน์ได้ว่าโนเกีย สามารถทำตลาดสมาร์ทโฟนวินโดวส์ได้ดีระดับหนึ่ง
       
       โนเกียสานต่อความสำเร็จด้วยการเปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงจับกลุ่มลูกค้าไฮเอนด์ในตระกูล Lumia ทั้งLumia 1520 และ Lumia 1320 ด้วยขนาดหน้าจอ 6 นิ้ว พร้อมกล้อง PureView 20 ล้านพิกเซล ระบบลดการสั่นไหวของภาพ OIS ช่วยให้ถ่ายภาพได้คมชัดแม้ในที่แสงน้อย พร้อมเทคโนโลยี Oversampling และระบบซูมใหม่แบบเดียวกับ Lumia 1020 โดยLumia 1520 มีสีเหลือง ขาว ดำ และสีแดงเคลือบมัน คาดว่าจะวางจำหน่ายภายในไตรมาส 4 ของปี 2556 ในราคา 749 เหรียญสหรัฐในฮ่องกง สิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา จีน อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี ฟินแลนด์ ส่วนLumia 1320 มีสีส้ม เหลือง ขาว และดำ คาดว่าจะวางจำหน่ายภายในไตรมาสหนึ่งปี 2557 ในราคา 339 เหรียญสหรัฐ
       
       ** ส่งAsha จับตลาดล่าง
       
       สำหรับตลาดกลาง/ล่าง โนเกียส่งมือถือตระกูล Asha 3 รุ่นใหม่คือAsha 500 ,502 และ 503 ซึ่งเป็นการต่อยอดความสำเร็จของ Asha 501 ในตลาดสมาร์ทโฟนราคาย่อมเยา โดดเด่นที่ดีไซน์ใหม่กรอบใสเหมือนคริสตัล สีสันจัดจ้านมองเห็นตัวเครื่องภายใน โดยAsha 500 หน้าจอ 2.8 นิ้ว กล้อง 2 ล้านพิกเซล มีทั้งแบบซิมเดียวและสองซิม ราคาประมาณ 69 เหรียญสหรัฐ
       
       Asha 502 หน้าจอ 3 นิ้ว กล้อง 5 ล้านพิกเซล แฟลช LED รองรับการใช้งานสองซิม จะวางจำหน่ายในแอฟริกา เอเชียแปซิฟิก ยุโรปและตะวันออกกลาง ในราคาประมาณ 89 เหรียญส่วนAsha 503 รองรับการเชื่อมต่อสัญญาณ 3.5G หน้าจอกระจก Corning Gorilla Glass 2 ขนาด 3 นิ้ว กล้อง 5 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED มีทั้งแบบซิมเดียวและสองซิม ราคา 99 เหรียญสหรัฐโดยจะวางจำหน่ายในไตรมาส 4 ปี 2556
       
       ***เบื้องลึกแรงบันดาลใจ Asha
       
       จัสซี่ เนอวานลินนา รองประธาน ฝ่ายผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือ โนเกีย ให้สัมภาษณ์ในงาน Nokia World ว่าแรงบันดาลใจของ Asha 3 รุ่นใหม่อยู่ภายใต้คอนเซ็ปต์ 3 อย่างคือ 1.ดีไซน์เคลือบใสเหมือนคริสตัลที่มีน้ำแข็งล้อมรอบภายนอก 2.พัฒนากล้องจากรุ่นเดิมที่ความละเอียด 2 ล้านมาเป็น 5 ล้านพิกเซล และ3. ยูสเซอร์อินเทอร์เฟส ให้ใช้งานได้ง่ายขึ้นโดยเฉพาะการถ่ายรูปและแชร์รูปผ่านโซเชียลเน็นเวิร์ก ไม่ว่าอยู่ที่หน้าจอไหนก็สามารถเข้าสู่กล้องได้ทันที และเมื่อถ่ายรูปเสร็จก็สามาถเลือกได้ว่าต้องการแชร์ผ่านอะไรได้เลย
       
       'Asha เปิดตัวครั้งแรกเมื่อ 2ปีที่แล้ว ปัจจุบันมี Asha อยู่ในตลาดประมาณ 15 รุ่น3ซีรี่ส์ ได้รับการตอบรับจากตลาดเป็นอย่างดี ในรอบ1ปีที่ผ่านมา (ไตรมาส2ปี 2012-13) Asha ในตลาดโลกขายไปแล้วกว่า 25 ล้านเครื่อง โดยคาดว่าAsha 503 ก็จะได้รับการตอบรับจากตลาดโลกและตลาดไทยเช่นเดียวกัน'
       
       กลุ่มเป้าหมายของAsha คือประเทศแถบเอเซียแปซิฟิก ลาตินอเมริกา ยุโรปตะวันออก แต่ถ้ามองเป็นบุคคลก็เป็นคนที่อยู่ในช่วงอายุประมาณ16 -24ปี นักเรียน คนที่เพิ่งเริ่มต้นทำงานคนที่เปลี่ยนจากฟีเจอร์โฟนมาลองเล่นสมาร์ทโฟนแบบเริ่มแรก และกลุ่มคนที่ต้องการโทรศัพท์เครื่องที่ 2ที่สามารถซิงค์ข้อมูลกับเครื่องหลักได้ คู่แข่งของAsha คือ กาแลกซี่วาย และเฮาส์แบรนด์ในประเทศต่างๆ
       
       'ความคาดหวังกับ Asha ทั้ง 3 รุ่นใหม่ ไม่ใช่เป็นเรื่องตัวเลข แต่สิ่งที่โนเกียต้องการคือแรงตอบรับจากตลาดและผู้บริโภคว่าชอบหรือไม่มากกว่า' 
       
       สำหรับทิศทางAsha ในอนาคตนั้น ผู้บริหารโนเกียกล่าวว่า Asha จะยังคงเดินไปในทิศทางที่เป็นสีสรรสดใส แม้จะตัวเล็กแต่ประสิทธิภาพสูงทำอะไรได้มากขึ้น กล้องดีขึ้น แชร์กับสังคมออนไลน์ได้ดีขึ้น การอยู่ภายใต้ไมโครซอฟท์มีความเป็นไปได้ว่าจะมีสิ่งดีๆเข้ามา บนAsha มีเอาท์ลุค มีไมโครซอฟท์ออฟฟิส น่าจะทำให้ประสบการณ์ใช้งานต่างๆเหล่านี้ดีขึ้น
       
       ***มั่นใจแอปพลิเคชัน
       
       นอกจากตัวเครื่องแล้วแอปพลิเคชันก็มีส่วนสำคัญในการสร้างยอดขายให้โนเกียได้อย่างมาก ไบรอัน บินิแอค รองประธานและผู้จัดการทั่วไปฝ่ายสนับสนุนนักพัฒนา โนเกีย กล่าวว่า ปัจจุบันแอปบน Lumiaมีมากกว่า1.7 แสนแอป เติบโตขึ้นจากปีที่ผ่านมาที่มีประมาณ 7 พันแอป ทั้งยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยโนเกียมีการทำงานร่วมกับนักพัฒนาทั้งในแอปที่ได้รับความนิยมและแอปยังไม่ดังแต่เป็นแอปที่มีอนาคต โดยแอปใหม่ๆที่น่าสนใจเช่น Nokia Beamer เป็นแอปเพื่อการแบ่งปันประสบการณ์และความคิดสร้างสรรให้กับเพื่อนร่วมงานได้ง่ายๆ โดยแชร์สิ่งที่อยู่บน Lumia ไปยังหน้าจอของอุปกรณ์ใดก็ได้ที่รองรับ HTML 5 สามารถแสดงได้ทั้งเอกสาร แผนที่ รายละเอียดสถานที่หรือแม้กระทั่งภาพที่กล้องจับได้
       
       *** ไทยอาจ 'แห้ว' โนเกียไม่เอาLumia 2520 มาขาย
       
       ตามแผนงานที่โนเกียคาดไว้คือจะนำLumia 1520 และ Asha 503 มาทำตลาดในไทยประมาณปลายปีนี้ ส่วนโปรดักส์อื่นจะทยอยตามลำดับ แต่มีเสียงเล็ดรอดมาว่าโนเกียประเทศไทยอาจจะไม่นำLumia 2520 แท็บเล็ตเครื่องแรกมาทำตลาดในไทย เพราะเป็นไลน์โปรดักส์ใหม่ ต้องมีการลงทุนใหม่เพิ่มเติม ต้องสร้างช่องทางการจำหน่ายใหม่ และสร้างความเข้าใจกับผู้บริโภคใหม่หมดซึ่งอาจไม่คุ้มกับผลตอบแทนที่ได้รับกลับมา
       
       ทั้งหมดทั้งมวล โนเกียกำลังพิสูจน์ให้คนทั้งโลกรู้ว่า ความเก่า และความเก๋า ของโนเกีย ที่สร้างสมมานานกำลังจะทำให้โนเกียพลิกฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง เสมือนเป็นคำมั่นสัญญาที่ผู้บริหารโนเกียกล่าวทิ้งท้ายไว้ในงาน Nokia World ที่ว่า 'สิ่งที่ยังคงอยู่คือ Connecting People เราจะสร้างสรรสิ่งที่เชื่อมโยงถึงกันหมดต่อไป ไม่ว่าจะเป็นโนเกียหรือไปอยู่กับไมโครซอฟท์ก็ตาม'

 อาหารเสริมนำเข้าจากสหรัฐอเมริกา

พาณิชย์นำทัพSME บุกฮอลลีวู้ด!! ผลิตแอนิเมชั่นเพื่อส่งออก

 

                           

นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ  เปิดเผยว่า ขณะนี้ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ พร้อมผู้บริหารกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ อยู่ระหว่างเดินทาง ไปส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์ บันเทิง และคอนเท้นท์ไทย ประจำปี 2556 ณ นครลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา ก่อนการจัดงาน American Film Market 2013 ซึ่งเป็นงานสำคัญของโลก ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6 – 13 พฤศจิกายน 2556

โดยในงานดังกล่าวจะมีผู้ประกอบการไทย 20 ราย จาก สมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ และ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)ร่วมสนับสนุน เพื่อเปิดตลาดให้นักลงทุน ผู้สร้าง ผู้กำกับ ผู้ซื้อ ในสหรัฐฯ และนานาชาติ 30 - 50 รายเข้าสัมผัสกับอุตสาหกรรมบันเทิงไทย คาดว่าจะสร้างรายได้เข้าประเทศไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท จากการรับจ้างผลิตงาน การลงทุนและร่วมลงทุนระหว่างประเทศ การสร้างเครือข่าย การขายผลงาน ตลอดจนการสร้างเวทีให้ผู้ประกอบการไทยรายใหม่ได้ศึกษาตลาด เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก

ทั้งนี้กรมฯได้เล็งเห็นศักยภาพของธุรกิจบันเทิงไทย ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพสูงในการนำรายได้ เข้าสู่ประเทศอย่างมากในโลกยุคดิจิตอลนี้  ในปี 2555 มูลค่าการตลาดของธุรกิจภาพยนตร์ มีประมาณ 24,000 ล้านบาท ในส่วนแอนนิเมชั่นและคอมพิวเตอร์กราฟฟิค รวมกันประมาณ  7,000 ล้านบาท  ซึ่งมียอดส่งออกรวมของทั้งสองกลุ่ม ประมาณ 10% ของมูลค่าการตลาด และในปี 2556  - 2559 แนวโน้มอดส่งออกคาดว่าจะเพิ่มไม่ต่ำกว่า 15% ต่อปี เนื่องจากสถานการณ์ตลาดโลกเปลี่ยนไปจากเดิม ประเทศในตลาดหลักหันมาหาแหล่งผลิตที่มีศักยภาพสูง และไทยเป็นประเทศที่ได้รับความสนใจในฐานะประเทศที่ผลิตงานคุณภาพสูงในราคาที่เหมาะสม

นางนันทวัลย์ กล่าวว่า กรมฯจะจัดการประชุมหัวหน้าสำนักงานและที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ด้านการค้าระหว่างประเทศ (HTAs) ประจำประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อประเมินสถานการณ์การค้าเบื้องต้น ซึ่งคาดว่าภาวะการค้าในปี 2557 จะดีกว่าปี 2556 จากการผ่อนคลายมาตรการเชิงปริมาณ(คิวอี)ของสหรัฐฯทยอยลดบทบาทลง โดยการส่งออกในช่วง 9 เดือนแรก(ม.ค.-ก.ย.)ของปีนี้ จะลดลง 0.1% มีมูลค่า 17,143 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นำเข้าเพิ่มขึ้น 23% หรือ มีมูลค่า 11,356 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

มีรายงานข่าวแจ้งว่า ในการเดินทางครั้งนี้นายนิวัฒน์ธำรง มีกำหนดการเข้าพบหารือประธานและสมาชิกสภาหอการค้าไทย-อเมริกันแห่งแคลิฟอร์เนียใต้ และผู้ประกอบการไทยรายใหญ่ในสหรัฐ ได้แก่ ตลาด Lax-C , ตลาดบางกอก , บริษัท H.C. Foods Co., Ltd  ,  บริษัท N.T.W. Import & Export (USA) Inc. , บริษัท American Commercial Transportation ,  บริษัท Perryman Mojonier Co. ฯลฯ

 อาหารเสริมนำเข้าจากสหรัฐอเมริกา

ซัมซุงเฉือนแอปเปิล ครองแชมป์แท็บเล็ตที่ลูกค้าพึงพอใจที่สุดในสหรัฐ

 

                           

คนที่ติดตามงาน Keynote ของแอปเปิลคงเห็นแอปเปิลอ้างผลสำรวจความพึงพอใจของผู้บริโภคในสหรัฐ จากบริษัท J.D. Power (ซึ่งผลิตภัณฑ์ของแอปเปิลมักได้คะแนนสูงสุด) อยู่เรื่อยๆแต่ผลสำรวจล่าสุดของ J.D. Power ในส่วนของแท็บเล็ต ปรากฏว่าแชมป์กลายเป็นซัมซุงที่พลิกมาเอาชนะแอปเปิลด้วยคะแนนแบบเฉียดฉิว (835 ต่อ 833 คะแนน) ส่วนอันดับสามคืออเมซอน 826 คะแนน โดยคะแนนความพึงพอใจเฉลี่ยของผู้บริโภคคือ 821 คะแนน

ข้อมูลอื่นๆ ที่น่าสนใจคือ ลูกค้าในสหรัฐนิยมซื้อแท็บเล็ตที่ร้านค้ามากกว่าสั่งซื้อออนไลน์ (59:41) และลูกค้า 50% ตัดสินใจซื้อสินค้าโดยอาศัยคำแนะนำจากเพื่อนหรือครอบครัว

ที่มา -Blognone  J.D. Power

 อาหารเสริมนำเข้าจากสหรัฐอเมริกา

Facebook ทดสอบระบบแท็กรูปแบบใหม่

 

                           

Facebook พยายามทำระบบแท็กรูปให้ผู้ใช้สามารถแท็กรูปได้ง่ายกว่าเดิม โดยมีผู้พบว่า เมื่อโพสต์รูปไปแล้ว ระบบจะทำการถามขึ้นมาว่าจะแท็กคนในภาพหรือไม่ โดยผู้ใช้สามารถกดภาพเข้าไปแก้ไขหรือลบแท็กได้ตามสะดวก (ดูภาพประกอบได้ท้ายข่าว)ยังไม่รู้ว่าระบบที่ว่าจะเร็วกว่าระบบถามเพื่อแท็กของเดิมแค่ไหน ใครได้ลองใช้แล้วก็มาบอกกันได้นะ

ที่มา -Blognone  Inside Facebook

 อาหารเสริมนำเข้าจากสหรัฐอเมริกา